วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคลอด



การคลอด เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพื่อขับเอาทารก รก และน้ำคร่ำออกจากโพรงมดลูกในครรภ์มารดาสู่ภายนอก ซึ่งคำอื่นๆ ที่มีความหมายเดียวกัน คือ Labor Delivery, Parturition, Confinement, Travail, Childbirth เป็นต้น การคลอดอาจเกิดขึ้นในอายุครรภ์ต่างกัน จะประเมินจากอายุครรภ์ขณะครรภ์จะเป็นได้ดังนี้
-          การคลอดครบกำหนด (Full term labor) คือ การสิ้นสุดของการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ขึ้นไป ถึง 42 สัปดาห์
-          การคลอดก่อนกำหนด (Pre term labor) คือ การสิ้นสุดของการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์อยู่ระหว่าง 28-37 สัปดาห์ น้ำหนักทารกแรกอยู่ระหว่าง 1,000-2.499 กรัม
-          การคลอดเกินกำหนด (Post term labor) คือ การสิ้นสุดของการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์เกิน 42 สัปดาห์ขึ้นไป
ชนิดของการคลอด
การคลอด มีความหมายทั้งทางการคลอดทางช่องคลอด และการคลอดโดยการผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง ดังนั้น การคลอดจึงแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1.       การคลอดปกติ (Normal labour or Eutocia) คือ การคลอดได้เองทางช่องคลอด (Spontaneous labor) ต้องมีลักษณะดังนี้
1.1   อายุครรภ์ครบกำหนด (อายุครรภ์ระหว่าง 37-42 สัปดาห์)
1.2   ส่วนนำเป็นศีรษะคว่ำหน้า คางชิดอก (Vertex presentation) เมื่อศีรษะจะคลอด กระดูก Occiput ต้องหมุนมาอยู่ใต้กระดูกหัวหน่าว (Occiput anterior ; OA)
1.3   ไม่พบภาวะแทรกซ้อนใดๆ ระหว่างการคลอด (ล้วงรก ตกเลือด เป็นต้น)
1.4   ใช้เวลาในการคลอดทั้งระยะที่ 1-3 ของการคลอด รวมแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง
1.5   ไม่มีการช่วยคลอดด้วยเครื่องมือใดๆ
2.       การคลอดผิดปกติ (Abnormal labour or Dystocia) คือ กการคลอดที่ไม่ได้ประกอบด้วยลักษณะดังที่กล่าวในการคลอดปกติ
ระยะของการคลอด (Stage of labour)
          การคลอด เป็นกระบวนการี่มีความต่อเนื่อง ตั้งแต่การเริ่มเจ็บครรภ์ จนกระทั่งสิ้นสุดการคลอด สามารถ แบ่งระยะของการคลอดออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ (บางตำราแบ่งเป็น 3 ระยะ)
1.       ระยะที่ 1 ของการคลอด (First stage of labour) หมายถึง ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเจ็บครรภ์จริง (True labour pain) จนกระทั่งปากมดลูกเปิดหมด (Fully dilatation) ซึ่งในระยะนี้ปากมดลูกจะมีการบางตัวลง และเปิดขยายเพิ่มขึ้น หรือาจเรียกว่า Stage of cervical effacement and dilatation แบ่งออกได้อีก 2 ระยะ ตามการศึกษาของ ฟรายแมน (Fridmen)
1.1 ระยะที่การเปิดขยายของปากมดลูกดำเนินไปอย่างช้ามาก (Latent phase) นับตั้งแต่เจ็บครรภ์จริงถึงปากมดลูกเปิด 2.5-3 เซนติเมตร ใช้เวลาเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 30 นาที ในครรภ์แรก และ 5 ชั่วโมง 30 นาที ในครรภ์หลัง ทั้งนี้ไม่ควรเกิน 20 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 14 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
1.2 ระยะที่มีการเปิดขยายของปากมดลูกจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว (Active phase) เพราะมดลูกมีความบางตัวแล้วจึงเปิดอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเฉลี่ย 5 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 2 ชั่วโมง 30 นาที ในครรภ์หลัง เริ่มจากปากมดลูกเปิด 3 ถึง 10 เซนติเมตร แบ่งย่อยได้อีกเป็น
- ระยะที่ปากมดลูกเริ่มเปิดอย่างรวดเร็ว (Acceleration) เริ่มจากปากมดลูกเปิด 3-4 เซนติเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
- ระยะที่ปากมดลูกเปิดอย่างรวดเร็วมากที่สุด (Phase of maximum slope) เริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 4-9 เซนติเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
- ระยะปากมดลูกเปิดช้าลง (Deceleration) เริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 9-10 เซนติเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีในครรภ์แรก และ 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
ลักษณะการหดรักตัวของมดลูกในระยะ active ตอนต้น จะหดตัวนาน 30-60 วินาที หดรัดตัวทุก 3-5 นาที ความรุนแรงระดับปานกลาง ส่วนในตอนท้ายมดลูกหดรักตัวนานประมาณ 40-90 วินาที ทุก 2-3 นาที ระดับความรุนแรงปานกลางถึงมาก
2.       ระยะที่ 2 ของการคลอด (Expulsive stage or Second stage of labour) หรืออาจเรียกว่า ระยะเบ่ง (หรือระยะการคลอดทารก) นับตั้งแต่ปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร จนกระทั่งสิ้นสุดการคลอด ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ไม่เกิน 2 ชั่วโมงในครรภ์แรก และ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ไม่เกิน 1 ชั่วโมงในครรภ์หลัง (ระยะเวลาที่ครรภ์หลังใช้น้อยกว่าครรภ์แรก เพราะ เคยผ่านการคลอดมาแล้ว ช่องคลอดจึงกว้างกว่า และแรงต้านจากพื้นเชิงกรานน้อยกว่า)
ลักษณะการหดรัดตัวของมดลูกในระยะนี้จะนาน ถี่และรุนแรง หดรัดตัวนาน 60-90 วินาที ทุก 2-3 นาที ความรุนแรงระดับมาก ผลจากการหดรัดตัวของมดลูกนานถี่และรุนแรงนี้จะทำให้ส่วนนำ(ในการคลอดปกติคือ ส่วนนำคือศีรษะหรือเรียกว่าท่าศีรษะ) เคลื่อนต่ำลงอย่างรวดเร็วและถุงน้ำคร่ำมักแตกในช่วงต้นของระยะนี้
แรงดันของส่วนนำกดลงบนเส้นประสารทซาครัล (Sacral nerve) และ อ็อบทูราเตอร์ (Obturator nerve) ทำให้หญิงมีครรภ์รู้สึกอยากเบ่ง(คล้ายกับอยากเบ่งอุจจาระ เพราะการกดเส้นประสาทเดียวกัน) ฝีเย็บบางโป่งตึง ถ้ามดลูกหดรัดตัวดีและหญิงมีครรภ์มีแรงเบ่งดี ศีรษะทารก(ส่วนนำ)จะเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนมองเห็นส่วนที่กว้างที่สุดของศีรษะเรียก คราวนิง (crowing) ศีรษะทารกจะไม่หดกลับเข้าไปอีกแล้ว เมื่อมดลูกคลายตัว ช่วงนี้ถ้าไม่ตัดฝีเย็บอาจทำให้ฝีเย็บฉีกขาดได้
3.       ระยะที่ 3 ของการคลอด (Placental stage) หรือเรียกว่า ระยะคลอดรก นับจากภายหลังทารกคลอดออกมาแล้วจนกระทั่งรกและเยื้อหุ้มทารกคลอด ใช้เวลาประมาณ 5-30 นาที ทั้งครรภ์แรกและครรภ์หลัง แต่การใช้เวลายิ่งนานเท่าใดยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการตกเลือดได้มากเท่านั้น
4.       ระยะที่ 4 ของการคลอด (Recovery stage) นับตั้งแต่รกคลอดถึง 2 ชั่วโมงหลังคลอด เป็นช่วงที่ร่างกายจะฟื้นคืนเป็นปกติ แต่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจาก อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย โดยเฉพาะตกเลือดหลังคลอด

ทั้งหมดนี้ คือความรู้พื้นฐานในการคลอด แต่ในการทำคลอดนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมาย (ซึ่งจะเล่าครั้งเดียวคงยาวเกินไป จึงขอจบไว้เพียงทำนี้ สำหรับความรู้พื้นฐาน ต่อไปจะมาเล่าต่อนะครับ ^^)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น